วันเสาร์, มิถุนายน 21, 2557

กลัวฝรั่ง แต่ไม่กลัวคนไทย... จิงป่ะ


เป็นข้อมูลให้ความรู้เพื่อศึกษา (ข่าวทั่วไป)

กรณี อี ยู เตรียมประกาศตอบโต้ ที่อาจเกิดขึ้นกับทุกผู้ทุกนามที่เกี่ยวข้องกับ คสช.ไม่ว่าจะพวกที่อยู่เบื้องหน้าหรือเบื้องหลัง แบบที่ออสเตรเลียประกาศไม่ให้วีซ่ากับผู้ร่วม คสช.ก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่อาจเกิดขึ้น เพราะออสซี่ทำเป็นตัวอย่างแล้ว เมื่อไม่ได้เชงเก้อร์วีซ่า ก็จะเข้าประเทศอียูไม่ได้สักประเทศ

ส่วนสหราชอาณาจักรนั้น ดูการแสดงออกของทูตได้ว่าแรงกว่าสหรัฐเสียอีก

ตอนนี้เราได้เห็นตัวประกอบหนังไทยและโฆษกทหารบางคน ออกมาแถ และโจมตี Human Right Watch กับ Amnesty International อย่างแข็งขัน โดยไม่หาข้อมูลให้ชัดว่า Head office ของสององค์กรนั้นอยู่ในลอนดอน

ดังนั้น สงสัยว่าโอกาสที่จะได้ไปเป็นทูตทหารในประเทศตะวันตกกันอีก คงจะสูญสิ้นไปแล้วตลอดชาตินี้ แบบที่ไอ้ไก่อูไม่ได้รับการตอบรับในหลายประเทศหลังออกมาช่วงรัฐบาลไอ้มาร์กนั่นแหละ

ประเทศอียู อังกฤษ ออสเตรเลีย สหรัฐ ฯลฯ นั้น ไม่เคยมีปฏิกริยาแข็งกร้าวแบบนี้กับรัฐประหารในไทยเท่าครั้งนี้ คิดดูเองก็แล้วกันว่าเขาเลือกข้างไหน ระหว่างประชาธิปไตยกับพวกเผด็จการตกยุคจอมดื้อด้านทั้งหลาย

การตอบโต้เหล่านี้ดูแล้ว เราอาจคิดว่าเผด็จการไม่สนใจหรอก แต่ที่จริงแล้ว พวกนี้กลัวฝรั่ง แต่ไม่กลัวคนไทย เพราะเหยียบหัวคนไทยไว้ใต้ตีนมาได้ตลอด แต่ฝรั่งยอมตลอดเหมือนกัน ศึกษาประวัติศาสตร์ดูให้ดี จะสมัยไหนก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น

ส่วนฝ่ายทหารมาเลเซียที่มาเยือนไทยตามกำหนดนัดหมายเดิมก่อนรัฐประหาร ขอไม่ให้มีข่าวการเยือนใด ๆ ทางสื่อโดยเด็ดขาด ทั้งที่มีการเตรียมการกระจายข่าวเต็มที่ เพราะเขาไม่ยอมให้มีประเด็นทางการเมือง

นี่คือทหารของประเทศอารยะครับ ทำงานเฉพาะการป้องกันประเทศตามนโยบายของฝ่ายการเมืองที่ประชาชนเลือกตั้งเข้ามากำหนด

ส่วนการเชิญเอกอัตรราชทูตมาขอชี้แจงก็ไม่มีใครสนใจ ตอนนี้เลยต้องเชิญผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารมาขอชี้แจงแทน ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารก็คือความสัมพันธ์เฉพาะทหารต่อทหารเท่านั้น

เรื่องยุทธศาสตร์หลัก ๆ นั้นไม่ใช่หน้าที่ เป็นเรื่องของเอกอัครราชทูตเขา นายทหารไทยที่ไปเป็นผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารในต่างประเทศทุกนายรู้ดี

ขอบคุณ คสช.

จ่าสิบตรี อนุพงษ์ เผ่าอีกา
รายงาน

Credit