วันพฤหัสบดี, ตุลาคม 16, 2557

"จรรยา ยิ้มประเสริฐ"นำม็อบพรึบต้าน"ประยุทธ์"ที่นครมิลาน ประเทศอิตาลี ระหว่างการร่วมประชุมผู้นำกลุ่มเอเชีย-ยุโรป


ที่มา กรุงเทพธุรกิจ และ FB Junya Yimprasert

แนวร่วมแดงนำม็อบต้าน'ประยุทธ์'ที่อิตาลี

จรรยา ยิ้มประเสริฐ"นำม็อบต้าน"ประยุทธ์"ที่นครมิลาน ประเทศอิตาลี ระหว่างการร่วมประชุมผู้นำกลุ่มเอเชีย-ยุโรป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนัก อาทิ สำนักข่าวเอพี และเอเอฟพี เป็นต้น ได้รายงานข่าวว่าระหว่างที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะ อยู่ระหว่างการร่วมประชุมผู้นำกลุ่มเอเชีย-ยุโรป (อาเซม) ครั้งที่ 10 ที่นครมิลาน ประเทศอิตาลี ปรากฏว่าได้มีชาวไทยและชาวต่างประเทศจำนวนหลายร้อยคน ซึ่งนำโดยนางจรรยา ยิ้มประเสริฐ อดีตนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิแรงงาน และเป็นแนวร่วมกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งเคยถูกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เรียกรายงานตัว มารวมตัวชุมนุมประท้วงพล.อ.ประยุทธ์ โดยผู้ชุมนุมประกอบด้วยกลุ่มเคลื่อนไหวด้านประชาธิปไตยและประชาชนทั่วไป ซึ่งมีทั้งชาวอิตาลีและคนไทย มายืนชูป้ายและภาพข้อความประท้วง รวมทั้งมีชาวต่างประเทศชูป้ายประท้วงเพื่อเรียกร้องในกรณีของนายฟาบิโอ โปเลงกี ช่างภาพชาวอิตาลีที่ถูกกระสุนยิงเสียชีวิตช่วงสลายการชุมนุมเมื่อเดือน พ.ค.2553

สำหรับนางจรรยา เป็นหนึ่งในผู้ที่ขัดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ที่เรียกรายงานตัวเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยยังคงอาศัยอยู่ในประเทศแถบสแกนดิเนเวีย อีกทั้งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาคดีมาตรา112 ด้วย
...

ความเห็น


ผู้นำของเราไปไหนมาไหนคนก็คอยต้อนรับ..:(เป็นกำลังใจให้Junya Yimprasertครับสู้ๆ:)

ชาวอิตาลีออกมาต้อนรับประเย็ดกันอย่างอบอุ่น 5555
Italian people protested against Thai dictator PM at ASEM summit 2014.

ได้ข่าวว่า นสพ ฟาร์สซิส แนวหน้า ตัดต่อรูปพี่เล็ก Junya Yimprasert ยืนถือป้ายคนเดียว บอกมีมนุษยป้าแค่คนเดียวประท้วงท่านผู้นำมัน ... เราเห็นในรูปนี้ต้องบอกว่ามนุษย์ป้าเต็มเลย แถมมนุษย์ป้าหน้าตาดี หน้าตาละอ่อน หน้าตาดูอินเตอร์เนชันแนล 5555555555


Junya Yimprasert giving the warm welcome to the general in Milan

หุ หุ


ก่อนหน้านี้ แนวหน้าเอารูปพี่เล็ก Junya Yimprasert ยืนประท้วงประยุทธ์คนเดียว มาล้อเล่น เอามาเทียบกับสลิ่ม 9 คนที่มาให้กำลังประยุทธ์ พูดแดกว่ามนุษย์ป้าออกมาประท้วงคนเดียว
....แล้วตอนนี้กระจ่างแล้วครับ คนประท้วงมาเป็นร้อย... แนวหน้าหายหัวไปไหน? ไม่รายงาน?

Fury as Thai coup leader joins club of world leaders

Source: AFP

16 Oct 2014

Thai Prime Minister Prayut Chan-O-Cha slipped quietly into the club of world leaders Thursday against a backdrop of noisy protests against the former general who seized power in May.

Prayut's first outing on the global stage came at an ASEM summit of European and Asian leaders, which he was invited to despite the European Union having suspended official contacts in protest over his overthrow of an elected government and subsequent stifling of dissent within the troubled southeast Asian state.

Smiling and waving for the cameras, Prayut, 60, declined to respond to a barrage of shouted questions from reporters as he arrived for the summit, the 10th meeting of its kind since the ASEM forum was launched in Bangkok in 1996.

Across town, several hundred students and Thai exiles brandished "Prayut is a criminal" placards as they staged the kind of march that is currently impossible in Thailand, where the military-backed regime has introduced a ban on people gathering in groups of more than five.

Exiled Thai Junya Yimprasert, who helped to organise the protest, said she hoped it would be the start of an international campaign to put pressure on the junta to restore basic freedoms.

"We may not be very many here today but many more people are with us in spirit and we know people in Thailand are watching," Junya told AFP.

"This man should not be welcome in Europe."

The activist said Western governments should not be duped into accepting Prayut as a legitimate leader.

"There have been enough military coups in Thailand and enough deaths over the years for the leadership of the world to know that they have to stand firm in defence of civil rights."

Prayut swapped his uniform for a suit when he retired from the military after a 40-year army career at the end of last month.

He has said he plans to implement reforms and rid Thailand of corruption before organising elections.

October 2015 has been pencilled in as a date under his reform "roadmap" but, in comments before he left Bangkok for Milan, he appeared to hint that this date could slip, saying the timing of any vote would depend on the progress of work on a new constitution.

"The problem is can we implement roadmap?" he said.

- 'Assassin' -

Brad Adams, Asia Director for Human Rights Watch, said the EU should use the ASEM summit to make it clear to the junta that "there will be no return to business as usual until Thailand returns to democratic civilian rule through free and fair elections.

"Thailand is in the grip of a major crackdown on freedom of expression, association and public assembly that shows no sign of ending," he added.

The EU has been sharply critical of the military's latest intervention in Thai politics.

The bloc suspended official visits to and from Thailand after the May coup and put a proposed new cooperation agreement on ice.

Despite the sanctions, EU governments agreed last month not to prevent Prayut from attending the ASEM summit.

Some of the protestors in Milan Thursday were there to demand justice for Italian photo-journalist Fabio Polenghi, who was shot dead by the Thai army during street clashes in May 2010.

The soldier who fired the shot has never been identified and Polenghi's sister Arianna describes the general as "an assassin who, along with others, ordered the execution of my beloved brother Fabio".

"Now he is being welcomed to Italy as a legitimate head of state... incredible," Arianna Polenghi said in a statement posted on her brother's memorial website.

ooo

น่าไม่อาย ชาวอืตาเลียนบอกว่าคนกลุ่มนี้สนับสนุนเผด็จการ


ooo
‘ประยุทธ์’พ้ออยากลาออก หงุดหงิดทะเลาะภรรยา รับห่วงครอบครัวอยู่ลำบาก


 ที่มา ข่าวสดออนไลน์

เมื่อเวลา 19.00 น. วันนี้ (15 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง นายสุรพิทย์ กีรติบุตร เอกอัคราชทูตไทย ณ กรุงโรม เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำแก่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะ โดยมีพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เอกอัครราชทูตไทยในยุโรป ทีมประเทศไทยในสาธารณรัฐอิตาลี และนักธุรกิจไทยที่มาร่วมประชุมสภาธุรกิจเอเชีย-ยุโรปเข้าร่วม โดย นายกรัฐมนตรีกล่าวตอนหนึ่ง ในงานเลี้ยงอาหารค่ำ กรณีที่มีคนไทยในอิตาลีมาให้กำลังใจ ว่า รู้สึกชื่นใจ หลังจากก่อนหน้านี้มีข่าวว่า จะมีคนมาต่อต้าน ถือเป็นเรื่องดีที่กระทรวงการต่างประเทศทำความเข้าใจได้

 นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอขอบคุณหลายภาคส่วน ที่ร่วมทำงานเดินหน้าประเทศไทย โดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศ ที่ต้องทำหน้าที่ชี้แจงให้นานาประเทศเข้าใจสถานการณ์ในประเทศ การสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจ จะต้องกำหนดวิสัยทัศน์ ให้ชัดเจน และขอให้ทุกคนร่วมกันทำงาน  ใช้ความเป็นคนไทยแสดงให้เห็นว่าเราจริงใจ

 “เมื่อเดินมาถึงวันนี้แล้ว ต้องสู้เดินหน้าต่อไป เพราะถ้าไม่สำเร็จก็ไม่รู้จะอยู่ยังไง ชีวิตผมก็อันตรายเหมือนกัน ครอบครัวก็ไม่มีความสุข วันนี้ถามว่าลูกเมียไปไหนได้บ้าง ไม่ได้กลัว แต่ก็ต้องระวัง ตั้งแต่เข้ามา ผมไม่เคยกล่าวโทษให้ร้ายใคร แต่ถ้ามาพาดพิงมาก ก็อดไม่ได้ เพราะรักเกียรติยศศักดิ์ศรี ผมอาจพูดจาไม่ไพเราะมากนัก ก็เป็นธรรมดาที่มีคนรักและไม่รัก แต่ผมเชื่อว่าคนในประเทศไทยเข้าใจ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

  พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การเข้ามาเป็นรัฐบาล เพื่อขับเคลื่อนประเทศที่หยุดชะงักให้เดินหน้า จากการปลดล็อค ถ้าไม่ทำอะไร ประเทศถอยหลัง ติดขัด จากการก้าวเข้ามาเป็น คสช. ช่วงแรกก็หนักใจ แต่เมื่อเข้ามาแล้ว ก็ต้องทำงาน ใครก็ต้องการทำอะไรให้ประเทศทั้งนั้น แต่ที่ผ่านมาติดกับดักคำว่าประชาธิปไตย

 นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในด้านต่างๆ ขณะนี้ ว่า ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหลายคณะ เพื่อเข้าไปศึกษา และต้องมีผลงานให้เห็น ที่สำคัญต้องลดความเหลื่อมล้ำของคนในสังคม โดยเฉพาะเรื่องที่ดินทำกิน และว่า ตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา ได้เร่งแก้ปัญหาเต็มที่ ซึ่งหลายประเทศเข้าใจ และยังคงเข้ามาสานต่อด้านการค้าการลงทุน ทำให้รู้สึกสบายใจ ดังนั้น จึงต้องไปส่งเสริมนวัตกรรมใหม่ๆ และส่งเสริมการค้าการลงทุน

 นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะกรรมการร่วมรัฐและเอกชน (กรอ.) ต้องร่วมมือกัน เอสเอ็มอีขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ต้องเกิดขึ้น และเชื่อมโยงกัน และต้องส่งเสริมการจ้างงานไทย ใช้ของไทย รัฐบาลพร้อมให้ความช่วยเหลือภาคเอกชน ขณะเดียวกัน ต้องเชื่อมโยงกับประเทศต่างๆ พร้อมวางยุทธศาสตร์การทำงานให้ครอบคลุมทุกด้าน

  “รัฐบาลจะเตรียมงบประมาณรองรับการดำเนินการ โดยรัฐบาลเดินหน้าด้วยแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง และจะไม่ปล่อยให้มีการทุจริตคอรรัปชั่นเกิดขึ้น และพร้อมให้โอกาสทุกฝ่ายในการต่อสู้คดี” นายกรัฐมนตรี กล่าว

  นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาด้านความมั่นคง ว่า ยังจำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษควบคุมสถานการณ์ ลดความขัดแย้ง และเดินหน้าสู่การปฏิรูปประเทศให้สัมฤทธิ์ผลใน 1 ปี หากไม่จบ รัฐบาลใหม่ต้องรับไปดำเนินการ พร้อมย้ำว่า ไม่ต้องการอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเกินกว่ากรอบเวลาที่วางไว้

 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ได้ยึดอำนาจรัฐบาล แต่สถานการณ์สุกงอม รัฐบาลชั่วคราวทำงานไม่ได้แล้ว ทหารมีมีหน้าที่ดูแลแผ่นดินรักษาสถาบันชาติ พระมหากษัตริย์ ถ้าสิ่งเหล่านี้ไม่ถูกละเมิด ทหารก็อยู่เฉยๆ ที่ผ่านมา ได้พูดกับนายกรัฐมนตรีหลายครั้ง เตือนทุกเรื่อง แต่ด้วยวิถีทางการเมือง ก็ช่วยไม่ได้ และว่า สิ่งที่ทำวันนี้ ทำเพื่อไม่ให้เกิดการปฏิวัติอีกในอนาคต ต้องเอาประเทศชาติเดินหน้าไปให้ได้

  “ผมพร้อมจะลาออก อยากจะลาออกทุกวัน แต่เห็นประชาชนเดือดร้อนทนไม่ได้ และไม่ได้อยากอยู่เกินแม้แต่วันเดียว ทุกวันนี้ ผมสู้รบทุกวัน ในบ้านกลับมา ก็ทะเลาะกับเมีย เมียถามว่า ทำไมอันนี้ไม่ทำ ผมบอกทำแล้ว บางเรื่องทำไม่ไหว ก็หงุดหงิด สรุปว่าผมไม่มีความสุข ทุกคนไม่มีความสุข ผมจึงต้องคืนความสุขให้ประชาชน และได้รับความทุกข์ไง” พล.อ.ประะยุทธ กล่าว

 นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง การเข้าร่วมประชุมผู้นำอาเซม ว่า จะใช้เวทีอาเซมสะท้อนแนวคิดการรวมกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อให้ตลาดยุโรปเห็นคุณค่า เพราะสินค้าการเกษตร โดยเฉพาะข้าว เป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญ ประชาคมโลกจะมีศักยภาพเพียงพอในการดูแลทรัพยากรมนุษย์ในอนาคตหรือไม่ จึงต้องเตรียมแหล่งอาหารโลกให้เพียงพอ ซึ่งประเทศอาเซียนจะสามารถทำเรื่องเหล่านี้ได้

 นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะเดียวกันต้องเตรียมขายสินค้า เช่น ข้าว ปาล์มน้ำมัน ให้ได้มาก โดยเริ่มต้นด้วยการรวมตัวในกลุ่มประเทศอาเซียนก่อน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เช่น ช่วยกันวิจัยข้าว เพิ่มมูลค่า ขายของให้มีราคา เช่น ขายข้าวสำหรับคนเป็นเบาหวาน และข้าวที่รับประทานแล้วทำให้อ่อนวัย

  “ข้าวในโครงการรับจำนำข้าว ไม่สามารถขายได้ เนื่องจากจะขาดทุน เพราะถ้าขายข้าว 20  ล้านตัน จะขาดทุน 4 –7 แสนล้านบาท หากปล่อยไปอีก 3 ปี อาจทำให้ประเทศล้มละลายได้ แต่รัฐบาลก็ไม่สามารถเลิกโครงการนี้ จึงต้องช่วยเหลือต่อไป” นายกรัฐมนตรี กล่าว