วันศุกร์, พฤศจิกายน 14, 2557

อภิรัฐมนตรีผู้อวตาร


ดูเหมือนจะเป็นธรรมเนียมไปเสียแล้วว่า เมื่อใดคณะทหารทำการปฏิวัติจะต้องฉีกรัฐธรรมนูญร่ำไป ทำให้ต้องร่างขึ้นมาใหม่อีก และทุกครั้งก็จะประโคมข่าวว่าของใหม่ดีกว่าของเดิมแน่ๆ (แต่ก็เห็นถูกฉีกทิ้งทุกทีไป)

มาคราวนี้ก็อีหรอบเดิม คือ กำลังร่างของใหม่ให้ดีกว่าเดิมถึง 11 ด้านด้วยกัน โดยอาศัยวลีปฏิรูป (พระว่า) บรรดาผู้มีหน้าที่ทั้งหลายก็แข่งขันกันพรั่งพรูความเห็นต่างๆ นาๆ จนจับความหาสาระประโยชน์ได้น้อยเต็มที โดยมีความเห็นลำดับบรมห่วยสุดขั้วคือ การเสนอให้มี “อภิรัฐมนตรี”

ความจริงอภิรัฐมนตรีเป็นของดั้งเดิมที่รัชกาลที่ 7 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ท่านทรงมีพระราชดำริ และทรงใช้ในช่วงก่อนเปลี่ยนการปกครอง โดยคณะอภิรัฐมนตรีประกอบด้วย เจ้านายลำดับสูง 5 พระองค์ ซึ้งล้วนเคยถวายงานใกล้ชิดพระยุคลบาทรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มาแล้วทั้งสิ้น แต่อย่างไรก็ตาม ความสามารถและวิสัยทัศน์ของเหล่าคณะอภิรัฐมนตรีก็มิอาจทัดเทียมล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 อภิรัฐมนตรีจึงไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจฝืดเคืองในยุคนั้นได้ เพราะมิอาจเข้าใจความซับซ้อนทางสังคมและเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น และการไม่ยึดโยงกับประชาชน ซึ่งกำลังเป็นหลักการสำคัญในสังคมโลกสมัยใหม่ จึงทำให้มีกลุ่มพลเรือนและทหารหนุ่มทำการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองในที่สุด

คราวนี้ข้อเสนอกลับมาจากชนชั้นกลางใหม่ซึ่งหลงตัวเองว่าเป็นศักดินา หากจำกันได้ในช่วงก่อนปฏิวัติ มีการพูดกันแบบเหยียดหยามว่าคนจนมันโง่ ชาวบ้านร้านตลาดมันทึมทึกไร้ค่าหาประโยชน์ไม่ได้ ต้องพวกผู้ดีมีเงินมีการศึกษาเท่านั้นจึงจะเป็นชนชั้นปกครอง ดังนั้นการเลือกตั้งเอาเสียงข้างมากจากชาวชนบทจึงเป็นการปกครองที่รับไม่ได้ (สุดท้ายก็ปฏิวัติ)

ข้อเสนออภิรัฐมนตรีครั้งนี้ แปลกที่สุดคือไม่ใช่เพื่อปกครองกลุ่มคนชั้นล่างเท่านั้น แต่กลับเพิ่มมิติการปกครองไปปกครองกลุ่มชนชั้นนำด้วยกันเอง คืออยู่เหนือศาล อยู่เหนือสภานิติบัญญัติ และอยู่เหนือรัฐบาลเสียอีก เป็นข้อเสนอที่ยิ่งทิ้งประชาชนจนห่างไกลสุดเอื้อม เป็นข้อเสนอที่ทำลายระบบการแบ่งแยกอำนาจ เป็นข้อเสนอแบบรวมศูนย์ เป็นข้อเสนอที่แปลว่ากูคือผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้น เป็นความคิดแบบอวตารว่างั้นเหอะ นี่หรือครับที่พวกคุณพยายามเรียกว่าประชาธิปไตยแบบไทย ความเห็นสูงสุดของพวกคุณมันเป็นสวรรค์ชั้นไหนกันครับที่คนดีแบบคุณได้รับอนุญาตให้สถิตย์กันอยู่ได้

ขอเรียนว่าหากจะมีการบรรจุตำแหน่งหน้าที่อภิรัฐมนตรีตามที่เสนอกันมานี้ ผมจะขอเผชิญหน้าคัดค้านจนถึงที่สุด เป็นตายก็ยอมครับคราวนี้






ooo

"ปลอด" ลั่น เพื่อไทย ไม่ขอร่วมวงร่างรธน. เมินทำกิจกรรมกับรัฐบาล

ที่มา มติชนออนไลน์

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน นายปลอดประสพ สุรัสวดี รักษาการรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญจะเชิญตัวแทนพรรคการเมืองเสนอความเห็นเกี่ยวกับการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่า ขณะนี้พรรคพท.ยังไม่ได้รับหนังสือเชิญอย่างเป็นทางการ แต่ได้รับการประสานทางโทรศัพท์ และได้มีการพูดคุยกันภายในบ้างสามารถสรุปได้เบื้องต้น 2 ประเด็น คือ 1.พรรคพท.ไม่ขอร่วมกิจกรรมใดๆกับรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร รวมถึงการร่างรัฐธรรมนูญและการปฏิรูปประเทศ เพราะเป็นเพียงข้ออ้างเพื่อล้มรัฐบาลและล้มรัฐธรรมนูญ และยืนยันจะไม่ร่วมกับ สนช.และ สปช.

และ 2.หากจะให้พรรคส่งตัวแทนเข้าร่วมอย่างเป็นทางการคงไม่ได้ ทำได้เพียงแค่เสนอความเห็นแบบกว้างๆ เช่น ต้องร่างรัฐธรรมนูญโดยคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนให้เท่าเทียม ยุติธรรม ร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ไม่เอนเอียงเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เป็นต้น อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวมีความจำเป็นต้องหารือกับสมาชิกพรรค หรืออย่างน้อยก็ต้องประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อออกเป็นมติ ซึ่งตอนนี้ติดคำสั่งของคสช. ดังนั้นขอให้คสช.อนุญาตให้พรรคการเมืองสามารถประชุมได้หรือไม่ เพราะการแสดงความเห็นต่อการร่างรัฐธรรมนูญไม่สามารถจบได้แค่ครั้งเดียว ต้องแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและติดตามผลการทำงานตลอด แต่หากจะให้ดีคสช.ควรประกาศยกเลิกกฎอัยการศึก เพื่อประชาชนจะได้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ด้วย