วันพฤหัสบดี, มีนาคม 26, 2558

เปิดโปงขุมนรกแดนอิเหนา ฝันร้ายของลูกเรือประมงไทย ติดคุก-โดนซ้อม-ตาย



ที่มา คนชายข่าว คนชายขอบ
BY TRANSBORDERNEWS
ON 24 มีนาคม, 2015

ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสคุยกับหนุ่มเมืองเพชรรายหนึ่งทางโทรศัพท์ ซึ่งถูกคุมขังอยู่ในคุกเล็กๆแห่งหนึ่งบนเกาะเบนจินา ประเทศอินโดนีเซีย โดยได้เบอร์โทรศัพท์มาจากคุณฐปณีย์ เอียดศรีไชย

เขาค่อนข้างระมัดระวังตัวมาก เพราะสถานการณ์ของลูกเรือประมงไทยที่นั่น “ตาย” ได้ทุกเมื่อโดยเฉพาะคนที่ออกมาเปิดโปงความจริง

ลูกเรือรายนี้มีถิ่นฐานอยู่อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี หลังจากจบ ม.6 แล้ว ก็ไปทำงานด้านช่าง จนมีความเชี่ยวชาญจึงไปสมัครเป็นผู้ช่วยเอ็นจีเนียบนเรือประมงขนาดใหญ่ลำหนึ่งซึ่งมีลูกเรือราว 30 คน โดยบริษัทสัญญาว่าจะจ่ายเงินเดือนให้ 9,000 บาท และส่วนแบ่งจากการขายปลาที่คิดเป็นเปอร์เซ็นอีกจำนวนหนึ่ง

เขาเดินทางออกจากท่าเรือในอำเภอแม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม เมื่อวันที่ 17 กรกฏาคม 2556 แต่แล้วสิ่งที่เขาประสบกับไม่เหมือนที่นายจ้างบอกไว้เลย





“สภาพบนเรือที่ผมทำงาน และเรืออื่นๆที่ผมเห็น มันเลวร้ายมาก บางคนถูกหลอก บางคนไม่เคยขึ้นเรือมาก่อน ร่างกายไปไม่ไหว แต่เขาก็บังคับให้ทำงานทั้งกลางวันและกลางคืน แทบจะไม่มีวันพักผ่อน เรือส่วนใหญ่หาปลาอยู่กลางทะเล 2 เดือน และเข้าฝั่งเอาปลาไปส่ง 5 วัน คนงานได้พักจริงๆแค่ 2 วัน” หนุ่มเมืองเพชรถ่ายทอดสภาพการณ์

เมื่อถามว่าเมื่อเลวร้ายขนาดนั้น ทำไมถึงไม่กลับเมืองไทย เขาบอกว่าลูกเรือจำนวนมากที่คิดจะกลับ แต่ก็กลับไม่ได้ หากไต๋เรือไม่ยอมและไม่มีญาติแจ้งความประสงค์ผ่านเถ้าแก่เรือ โดยลูกเรือจำนวนมากไม่สามารถติดต่อญาติพี่น้องที่เมืองไทยได้

“เครียดมากๆครับ บางคนเครียดจัดถึงกับกระโดดทะเลฆ่าตัวตาย บางคนถูกซ้อมจนสติฟั่นเฟือน บางคนเสียชีวิตก็ถูกนำไปฝังบนบก มีอยู่คนหนึ่งอายุ 50 ปีต้นๆ ต้องตายเพราะร่างกายทำงานไม่ไหว ไต๋ให้พวกเราเอาศพไปฝังกันเองโดยไม่ได้แจ้งญาติหรือมีพิธีใดๆทางศาสนาเลย” ลูกเรือรายนี้เล่าถึงความเลวร้ายที่เกิดขึ้น

“ผมเองก็ตั้งใจว่าพอเรือเข้าฝั่งเที่ยวนี้ก็จะกลับบ้านแล้ว แต่เรือดันมาโดนจับก่อน” เขาบอกถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญ แต่ช้าไปเสียแล้ว หลังจากนั้นไม่นานเขาถูกจับตัวไปคุมขังในคุกแห่งหนึ่งในข้อหาที่เขาขอไม่ให้เปิดเผย “ขณะนี้มีเรือไทยจำนวน 49 ลำถูกทางการอินโดฯจับไว้หลังจากเขาปิดน่านน้ำ มีลูกเรือประมงไทยตกค้างอยู่ที่นี่ 400-500 คน พวกเขาต้องการกลับบ้านเกือบทั้งนั้น”

คุกที่เขาถูกนำไปขังเป็นของเอกชนโดยความร่วมมือของทางการที่นำลูกเรือซึ่งไต๋ตัดสินว่ากระทำความผิดไปคุมขังไว้ก่อน ซึ่งหนุ่มเมืองเพชรผู้โชคร้ายรายนี้ติดมาแล้ว 2 เดือนกว่า

“ผมเคยทำหนังสือร้องเรียนไปยังกงสุลไทย แต่ไม่ได้รับการติดต่อมา อาจเป็นเพราะโทรศัพท์ของผมใช้ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง”




เมื่อถามถึงความต้องการเร่งด่วนที่เขาต้องการให้ช่วยเหลือในตอนนี้ เขาบอกว่า อยากให้ช่วยเอาตัวเขาและเพื่อนๆออกจากคุกเป็นการด่วน เพราะรู้สึกถึงอันตรายที่เฉียดใกล้เข้ามาทุกที โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการออกมาเปิดโปงความจริง

“ตอนนี้มีความเคลื่อนไหวจากคนที่ไม่หวังดี เขาไม่อยากให้ข้อเท็จจริงถูกเปิดเผย เมื่อคืนนี้ลูกเรือบางคนถูกข่มขู่ เลยไม่มีใครกล้าออกมาพูดอะไรมาก บนเกาะแห่งนี้ไม่มีสถานที่ของทางการที่จะช่วยคุ้มครองหรือยืนยันความปลอดภัยของพวกเราได้ ผมกลัวว่าหากรัฐบาลไทยไม่รีบส่งคนเข้ามา พวกผมจะถูกนำตัวไปไว้ที่อื่นและถูกทำให้หายไป”
—————
ขอบคุณภาพจากคุณฐปณีย์ เอียดศรีไชยและLPN

ลูกเรือประมงไทยที่ถูกหลอกไปทำงานในหมู่เกาะโมลุกกะ เขียนจดหมายถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อขอความช่วยเหลือ l ภาพโดย ฐปณีย์ เอียดศรีไชย

ที่มา คนชายข่าว คนชายขอบ
BY TRANSBORDERNEWS
ON 18 มีนาคม, 2015

เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2558 นายสมพงค์ สระแก้ว ผู้อำนวยการมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงานหรือ LPN กล่าวว่า วันนี้ตัวแทนอดีตลูกเรือประมงไทยในอินโดนีเซีย และเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิฯ ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนรัฐบาลที่ศูนย์ร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาลเพื่อให้ไทยเร่งรัดดำเนินการวางแผนและนโยบายช่วยเหลือแรงงานไทยที่ถูกหลอกไปทำงานบนเรือประมงไทยในน่านน้ำอินโดนีเซีย ซึ่งปัจจุบันมีแรงงานจำนวนมากยังติดอยู่บนเกาะต่างๆ ที่อินโดนีเซีย แต่ทางมูลนิธิฯ และหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชน หน่วยงานด้านความมั่นคงทราบข้อมูลและเคยบุกช่วยเหลือนั้นมีทั้งหมด 3 แห่ง คือ เกาะอัมบน เกาะตวนและเกาะเบจินา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะโมลุกกะ ประเทศอินโดนีเซีย โดยมีการประมาณการว่า มีลูกเรือไทยที่รอดชีวิตและยังติดบนเกาะดังกล่าวประมาณ 500-600 คน ที่ผ่านมาช่วยได้ไม่ถึง 100 คน

“เราส่งทีมงานไปเก็บข้อมูลบนเกาะเหล่านี้มาแล้ว 5 ครั้ง ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 – มกราคม 2558 ซึ่งพบว่าบนเกาะเหล่านี้ยังมีคนไทยตกค้างอยู่อีกนับพันคน นอกจากนี้ยังมีอีกกลุ่มใหญ่ไม่น้อยกว่า 2 พันคนที่ตกค้างเพราะทางการอินโดฯ ปิดน่านน้ำ คนเหล่านี้ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน แต่ทางการไทยยังไม่ขยับเท่าที่ควร” นายสมพงค์ กล่าว

นายสมพงค์กล่าวว่า จากการสำรวจของทีมงานยังพบด้วยว่า มีหลุมฝังศพของแรงงานไทยอยู่บนเกาะเหล่านั้นนับร้อยหลุม โดยคนงานมีทั้งคนพิการ คนตาบอดซึ่งถูกกวาดไปจากท้องถนนเพื่อไปทำงานบนเรือประมง บางส่วนถูกยาสลบและพาไปขึ้นเรือโดยมีเมืองมหาชัยเป็นจุดใหญ่ บางส่วนก็เป็นแรงงานที่สมัครใจเพราะต้องการไปหาเงิน แต่ไม่รู้มาก่อนว่าต้องเจอสภาพการณ์อันเลวร้าย โดยต้องทำงานเหมือนทาส

ลูกเรือประมงไทยที่ถูกหลอกไปทำงานในหมู่เกาะโมลุกกะ l ภาพโดย ฐปณีย์ เอียดศรีไชย


นายสมพงค์กล่าวว่า ยิ่งเข้าใกล้การเป็นประชาคมอาเซียนครั้งใด ดูเหมือนวิกฤตแรงานไทยในต่างประเทศ มีชะตากรรมที่แย่ลงทุกขณะ โดยลูกเรือส่วนมากที่ทางหน่วยงานในไทยค้นพบนั้น มักอาศัยอยู่ร่วมกับพม่ากัมพูชา บางคนถูกปลอมชื่อเป็นแรงงานประเทศอื่น ในฐานะตัวแทนภาคประชาชนคิดว่า ถึงเวลาแล้วที่จะจัดนโยบายคุ้มครองแรงงานให้เป็นเรื่องระดับชาติ ระดับภูมิภาค โดยอาจทำข้อตกลงความร่วมมือในการเร่งให้ความช่วยเหลือ เริ่มตั้งแต่ประสานงานพื้นที่ไปสำรวจและให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งเพิ่มโทษทั้งทางแพ่งและอาญาแก่นายจ้างและผู้เกี่ยวข้องที่ทำผิดด้วย นอกจากนี้ จะต้องปรับระบบการคุ้มครองแรงงานในภาคประมง โดยมีการตรวจสอบสัญญาจ้างที่แน่ชัด ซึ่งอำนาจดังกล่าวเป็นของทางการไทยเท่านั้นที่จะเข้าไปขอทางการอินโดนีเซียเพื่อดำเนินการ และหน่วยงานภาคประชาชนได้แค่แฝงตัวเข้าไปช่วยเหลือ