วันพุธ, กรกฎาคม 22, 2558

จดหมายเปิดผนึก ถึง คุณอังคณา นีละไพจิตร ว่าที่ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดใหม่ จาก นิธิวัต วรรณศิริ




จดหมายเปิดผนึก ถึง คุณอังคณา นีละไพจิตร
ว่าที่ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดใหม่


"หากท่านเห็นด้วยกับการใช้กำลังพลและกองทัพ ปล้นอำนาจอธิปไตยไปจากประชาชน แล้วล่ะก็
โปรดจงรีบเข้ารับตำแหน่งนี้ด้วยความยินดีเถิด"


อนึ่ง ด้วยข้าพเจ้า นายนิธิวัต วรรณศิริ เป็นอดีตนักเคลื่อนไหวนักกิจกรรมเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมืองคนหนึ่ง ที่ได้รับผลกระทบทางสิทธิมนุษยชน(หลบหนีลี้ภัยในต่างแดน) จากการถูกคณะเผด็จการทหารคสช. ที่ยึดอำนาจอธิปไตยจากปวงชนชาวไทย ไปเป็นอำนาจส่วนตัวของคณะตน ออกหมายจับ ในข้อหา"ไม่ไปรายงานตัว"ตามประกาศเรียกของคสช. ฉบับที่ 57/2557 ในลำดับที่ 13 และข้อหา "ฝ่าฝืนกฎอัยการศึก" จากการร่วมชุมนุมคัดค้านการยึดอำนาจอธิปไตยของปวงชน ในวันที่ 23 พ.ค. 2557
มีความประสงค์อยากทราบ "จุดยืนทางสิทธิมนุษยชน" ของคุณอังคณา นีละไพจิตร ต่อ "การยึดอำนาจอธิปไตยของปวงชนไปเป็นของกลุ่มบุคคลใดบุลคลหนึ่ง" ที่คณะคสช. ได้กระทำลงไปเมื่อปี 2557 ที่ผ่านมาในครั้งนี้ ว่า คุณอังคณา "ยอมรับ" หรือ "ปฏิเสธ" อำนาจรัฐที่มาจากปากกระบอกปืนและรถถัง ที่กำลังจะ "แต่งตั้ง" ให้คุณอังคณา ได้เข้าสู่"ตำแหน่ง"คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ" ในครั้งนี้

คุณอังคณาทราบหรือไม่ ว่า"การยึดอำนาจรัฐ ยึดอำนาจอธิปไตยของปวงชน ด้วยปืนและยุทโธปกรณ์ของกองทัพ ที่มาจากภาษีประชาชน" นั้นเป็นเรื่องที่ "ละเมิด"สิทธิมนุษยชนของประชาชน"ทั้งรัฐนั้นๆ"อย่างร้ายแรง
หากทราบ โปรดชี้แจงแถลงไข"ความชอบธรรม" ของคณะผู้แต่งตั้ง/มอบอำนาจ การเป็นคณะกรรมการสิทธิ์ให้คุณอังคณา ว่าคณะบุคคลที่ยึดอำนาจอธิปไตยไปเป็นของพวกตนเหล่านี้ มีความชอบธรรมอย่างไร ที่จะ"มอบตำแหน่งนี้"ให้กับคุณอังคณา

และจะยิ่งเป็นการดีไปกว่านั้น หากคุณอังคณา ได้กรุณาชี้แจงแถลงไข ถึงการเข้ารับตำแหน่งต่างๆ ที่คณะรัฐบาลเผด็จการทหาร ที่นำโดยพลเอกสนธิ บุญรัตนกลิน ได้มอบให้คุณอังคณา เมื่อครั้งการรัฐประหารยึดอำนาจประชาชนในปี 2549 ว่าการยึดอำนาจอธิปไตยไปจากประชาชนครั้งนั้น มีความชอบธรรมอย่างไร จึงทำให้คุณอังคณายินดีรับตำแหน่งเหล่านั้น

ตลอดระยะเวลาปีกว่าที่คณะเผด็จการทหารคสช.เข้ายึดอำนาจ สถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนภายในประเทศตกต่ำลงอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง จากการเขียนกฎหมายใหม่และบังคับใช้กฎหมายใหม่ที่คณะทหารเขียนขึ้นเหล่านั้นมา "ริดรอน คุกคาม และละเมิด สิทธิเสรีภาพ"ผู้เห็นต่างทางการเมือง รวมทั้งประชาชนโดยทั่วไป ที่ไม่ยอมรับอำนาจ ของผู้ที่มายึดอำนาจอธิปไตยของพวกเขาไป รวมทั้งการกวาดจับผู้ชุมนุมทางการเมืองด้วยกฎอัยการศึก และใช้มาตรา112(Lèse majesté Law)เป็นเครื่องมือเล่นงานทางการเมืองต่อผู้คนในรัฐเพิ่มสูงขึ้นมากมายอย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน จนองค์กรสิทธิมนุษยชนทั่วโลกรวมถึงที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนไทยเข้าร่วมเป็นภาคีอยู่รุมประณามเป็นเสียงเดียวกันให้เร่งคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็ว และหยุดใช้กฎหมายความมั่นคงและกฎอัยการศึกคุกคามประชาชนผู้ไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจนี้ ..เรื่องนี้ว่าที่กรรมการสิทธิ์อย่างคุณอังคณา ได้ทราบข่าวผ่านหูผ่านตาบ้างหรือไม่?

หากข้อสงสัยดังกล่าวข้างบนเบื้องต้น ถูกไขให้กระจ่างในเชิงสาธารณะ ต่อประชาชนโดยทั่วไป และองค์กรสิทธิมนุษยชนสากลต่างๆทั่วโลก ก็คงจะเป็นเรื่องดี ที่ทำให้องค์กรสิทธิ์ทั่วโลกได้กระจ่างแจ้งใน"ระบบคิด"เกี่ยวกับเรื่อง"สิทธิมนุษยชนสากล"ของคุณอังคณา นีละไพจิตร ที่กำลังจะได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จากคณะเผด็จการทหารในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้

หากเรื่องการใช้อำนาจต่างๆของคณะเผด็จการทหารที่ยึดอำนาจประชาชนไป ที่กล่าวมาข้างต้นนั้น เป็นเรื่องที่คุณอังคณา สามารถยอมรับ ไม่คัดค้าน และไม่ต่อต้าน หรือไม่เห็นว่าการกระทำเหล่านั้น"ละเมิดสิทธิมนุษยชน"ต่อคนไทยทั้งประเทศ รวมถึงการใช้อำนาจแต่งตั้งตำแหน่งใหม่ให้คุณอังคณาในครั้งนี้ โดยมิเคยผ่านฉันทามติจากประชาชน เป็นเรื่องที่ถูกต้องชอบธรรมแล้ว

"หากท่านเห็นด้วยกับการใช้กำลังพลและกองทัพ"ปล้นอำนาจอธิปไตยไปจากประชาชน"แล้ว ล่ะก็ โปรดจงรีบเข้ารับตำแหน่งนี้ด้วยความยินดีเถิด"

สาเหตุที่ข้าพเจ้าต้องเขียนจดหมายฉบับนี้ เพื่อสอบถาม ท้วงติง ต่อคุณอังคณา ในเรื่องนี้ ทั้งๆที่มิได้เกี่ยวข้องใดๆในทางส่วนตัวหรือทางกฎหมายกับคุณอังคณาทั้งสิ้น หากแต่ตัวข้าพเจ้าเอง มีความ"เคารพ"และ"นับถือ" ในความเป็นทนายสิทธิมนุษยชน ให้กับประชาชนชาวมลายู-ปาตานี ที่ถูกกดทับโดยระบบรัฐทหาร ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ของท่านทนายสมชาย นีละไพจิตร มาโดยตลอด และจะยังคงให้ความเคารพสดุดีอยู่เสมอ ในสิ่งที่ท่านทนายสมชายได้กระทำ ในการช่วย"พิทักษ์สิทธิมนุษยชน"ให้แก่ผู้ถูกกดขี่ทางกฎหมายและการปกครองในพื้นพิพาทสามจังหวัดมาตลอดระยะเวลาการทำงาน คอยติดตามแก้ต่างให้ผุ้บริสุทธิ์ในคดีที่ชาวบ้านถูกกระทำ ถูกสังหาร หรือซ้อมทรมานโดยเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่อย่างไม่เป็นธรรมโดยมิเกรงกลัวต่ออำนาจใดๆ จนกระทั้งถูกกลุ่มผู้ถืออำนาจรัฐในยุคนั้นสั่งอุ้มฆ่าและยังไม่เคยได้รับความเป็นธรรมใดๆในทางกฎหมายมาจนถึงทุกวันนี้

ทนายสมชาย"สิ้นลมหายใจเพราะปกป้องสิทธิมนุษยชนให้ผู้บริสุทธิ์" และ"ไม่ยอมรับอำนาจที่ไม่เป็นธรรมทั้งหลายทั้งปวง" สิ่งนี้ย่อมถูกจารึกไว้ไม่มีวันแปรเปลี่ยน และสิ่งเดียวกันนี้ทำให้ข้าพเจ้าจำต้องเขียนจดหมายเปิดผนึกฉบับนี้ ถึงคุณอังคณา ซึ่งเป็นภริยาตามกฎหมายของท่านทนายสมชายที่ผมเคารพนับถือ เพราะคุณอังคณา คือ"ตัวแทนที่เหลืออยู่และสืบสานเจตนารมณ์ของสามี"ในภาพที่ข้าพเจ้าเข้าใจ

หากย้อนไปถึงมูลเหตุที่ทนายสมชายเข้าไปทำคดีช่วยเหลือพี่น้องสามจังหวัด เกิดจาก"ระบบคิด"ของฝ่ายความมั่นคง ที่ไม่เห็นชาวมลายูมุสลิมเป็นเพื่อนมนุษย์ที่เท่าเทียมกัน และกระทำการกับพวกเขาเหล่านั้นอย่างป่าเถื่อน(ไม่ว่ารัฐบาลไหนๆ) จนทนายสมชายในฐานะทนายความสิทธิมนุษยชนต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกซ้อมทรมานและทารุณกรรมในค่ายทหารเหล่านั้น พอช่วยเหลือเหยื่อได้สำเร็จจนฝ่ายความมั่นคง"ตกเป็นจำเลยเสียเอง"ในหลายๆคดีเข้า ซึ่งสร้างปัญหาให้ฝ่ายผู้มีอำนาจในฝ่ายความมั่นคงอ่างถึงที่สุด ..เป้าสังหารจึงตกมาอยู่ที่ทนายสมชาย ซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้าเสียใจที่สุดสำหรับข้าพเจ้าในยุคที่เพิ่งรู้จักคำว่า"สิทธิมนุษยชน"

...ไม่ว่าใครก็ตามที่มีส่วนร่วมรู้เห็นหรือสนับสนุนการ"อุ้มฆ่า"ทนายสมชายในครั้งนั้น ล้วนไม่สมควรได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างเป็นสุขอีก

จึงขอใช้จดหมายฉบับนี้ ทวงถาม "ความชอบธรรม" ของอำนาจรัฐในปัจจุบัน ที่ยึดเอา"ความมั่นคงของกองทัพ"มาเป็นอันดับแรกในการให้ความสำคัญ ว่าในมุมมองของคุณอังคณา สามารถยอมรับอำนาจที่เขาเหล่านั้นทำการ"ปล้นอำนาจอธิปไตยประชาชนมาแต่งตั้งคุณอังคณาเข้าสู่ตำแหน่ง" ได้ลงจริงๆหรือ โดยเฉพาะกับคณะรัฐบาลทหารที่"ใช้ระบบเดียวกับที่ทนายสมชายไม่ยอมรับ"ในการคุกคามปราบปรามผู้เห็นต่างทางการเมือง

ปล.เหตุที่ข้าพเจ้าเขียนจดหมายฉบับนี้ถึงคุณอังคณาเพียงคนเดียว ในจำนวน 7 คน ที่กำลังจะเข้ารับตำแหน่ง เพราะข้าพเจ้า"เห็นความหวัง" ในการกอบกู้สถานการณ์สิทธิมนุษยชนภายในประเทศไทย วางอยู่บน"การตัดสินใจของคุณอังคณา" ไม่มากก็น้อย เพราะบุคคลอื่นๆในรายชื่อนั้น"ไม่มีเครดิตอะไรในการพิทักษ์สิทธิมนุษยชนให้ประชาชนมาแต่แรก" แต่กรณีคุณอังคณา แม้เพียงน้อยนิด หรืออาจจะริบหรี่สิ้นหวัง อย่างน้อยก็ขอให้ความศรัทธาที่ตัวข้าพเจ้ามีต่อทนายสมชาย นีละไพจิตร ได้ยังผลแห่งการกระทำเพื่อ"ปกป้องสิทธิมนุษยชนให้ผู้ที่ถูกกดขี่" ได้ไหลเวียนอยู่ต่อไปในตระกูลนีละไพจิตรตราบนานเท่านาน

คุณอังคณามิจำเป็นต้องเขียนอะไรตอบกลับข้าพเจ้าก็ได้ เพราะ..
การ"รับ" หรือ"ไม่รับ" ตำแหน่งคณะกรรมการสิทธิ์ชุดใหม่ ที่คณะเผด็จการทหารกำลังจะแต่งตั้งขึ้นนี้ ของคุณอังคณา
"คือจดหมายที่จะตอบกลับทุกประเด็นที่ยังสงสัยสำข้าพเจ้า(และอาจจะสำหรับใครอีกหลายๆคน)"

ด้วยความเคารพอย่างสูงต่อทนายสมชาย นีละไพจิตร

นิธิวัต วรรณศิริ
ผู้ลี้ภัยการเมืองไทย
22 กรกฎาคม 2558
นอกอาณาจักรไทย