วันอังคาร, มกราคม 20, 2558

คมนาคมลั่นปี 60-ได้นั่งไฮสปีดเทรน เปิดบริการสายแรก "กรุงเทพฯ-แก่งคอย-มาบตาพุด" (พาดหัวข่าวว่าไฮสปีดแต่ในเนื้อข่าวเป็นรถไฟความเร็วปานกลาง นี่มันอัลไล)


ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
16 ม.ค. 2558

"ประจิน" มั่นใจอีก 2 ปีเปิดใช้รถไฟความเร็วปานกลางสายแรกกรุงเทพฯ-แก่งคอย-มาบตาพุด จากนั้นอีกไม่ถึงปีเสร็จอีกสายแก่งคอย-นครราชสีมา-หนองคาย เผยมีเอกชนทั้งไทย-จีนหลายสิบบริษัทเสนอเข้าร่วม เร่งสรุปจะลงทุนรูปแบบไหน

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม กล่าวภายหลังการประชุมเตรียมการฝ่ายไทย-จีน เพื่อความร่วมมือด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟของประเทศไทย ครั้งที่ 1 ว่าที่ประชุมจัดทำโรดแม็ปการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ขนาดมาตรฐาน 1.435 เมตร จำนวน 2 เส้นทาง รวมระยะทาง 873 ก.ม. วงเงินลงทุนประมาณ 4 แสนล้านบาท

แบ่งแผนการดำเนินการออกเป็น 4 ช่วง ได้แก่ 1.กรุงเทพฯ-แก่งคอย 133 ก.ม., 2.แก่งคอย-มาบตาพุด 246.5 ก.ม., 3.แก่งคอย-นครราชสีมา 138.5 ก.ม. และ 4. นครราชสีมา-หนองคาย 355 ก.ม.

"โดยช่วงที่ 1 และ 2 จะเริ่มออกแบบก่อสร้างและเวนคืนที่ดินช่วงตั้งแต่ 1 ม.ค. 2558 เริ่มก่อสร้าง 1 ก.ย. 2558 แล้วเสร็จและเปิดเดินรถภายในเดือน ธ.ค.2560 ส่วนช่วงที่ 3 และ 4 คาดว่าจะเริ่มออกแบบก่อสร้างและเวนคืนที่ดินช่วงม.ค.2558 เริ่มก่อสร้าง 1 ธ.ค. 2558 ก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการเดินรถ มี.ค. 2561"

การออกแบบก่อสร้างจะนำเทคโนโลยีเครื่องบินติดกล้องถ่ายภาพแผนที่ทางอากาศ และระบบเซ็นเซอร์พื้นที่ที่ทันสมัยมาใช้ในการสำรวจแนวก่อสร้าง เชื่อว่าจะทำให้การสำรวจออกแบบทำได้เร็วและช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย มั่นใจว่าโครงการรถไฟไทย-จีนระยะทาง 873 ก.ม. เราจะก่อสร้างให้แล้วเสร็จได้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 2 ปีครึ่ง ซึ่งจะเร็วกว่าแผนงานการก่อสร้างรถไฟทั่วไปที่จะใช้เวลา 4 ปี"

ขณะนี้มีผู้ประกอบการทั้งภาคเอกชนของไทยและจีนได้เสนอตัวเข้าร่วม โดยมีผู้ประกอบการไทยจำนวนรวมประมาณ 12-15 บริษัท ส่วนฝ่ายจีนมีจำนวนมากกว่า มอบหมายให้ที่ปรึกษาไปรวบรวมรายชื่อผู้ประกอบการทั้งฝ่ายไทยและจีนมาพิจารณาร่วมกันจับคู่คัดเลือกหาบริษัทที่เหมาะสม โดยจะสรุปและนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมร่วมไทย-จีน ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 25-27 ก.พ.นี้

ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านการเงินและรูปแบบการลงทุนกล่าวว่า ขณะนี้ฝ่ายจีนได้เปิดกว้างโดยพร้อมให้ความร่วมมือกับไทยด้านการลงทุนทั้ง 3 รูปแบบคือ ให้จีนลงทุนให้ทั้ง 100%, กู้เงินจากจีนมาลงทุน และร่วมลงทุนกับจีน ซึ่งคณะอนุกรรมการจะต้องกลับไปพิจารณาเลือกรูปแบบที่ดีที่สุด

ที่มา : นสพ.ข่าวสด