วันเสาร์, พฤษภาคม 23, 2558

ปล่อยแล้ว นศ. กิจกรรม ๑ ปีรัฐประหาร...แต่



สถานการณ์หักหาญและโหมเหี้ยม โดยเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวมทั้ง อีแอบ(ทหารปลอมเป็นทั้งพลเรือนและตำรวจนอกเครื่องแบบ) ทำการฉุดกระชากลากถูกลุ่มนักศึกษาจัดกิจกรรม ศุกร ๒๒ มาฉลองกันมะที่บริเวณหน้าหอศิลป์ปทุมวัน ไปคุมขังยังสถานีตำรวจปทุมวัน กับการจับกุมนักศึกษากลุ่มดาวดิน จ.ขอนแก่น ที่ทำกิจกรรมแสดงออกความไม่พอใจไม่ต้องการรัฐประหารครบรอบ ๑ ปี และการสั่งปิดอนุสรณ์สถาน ๑๔ ตุลาฯ แล้วควบคุมตัวกลุ่มเยาวชนสังคมนิยมประชาธิปไตยไว้ที่สน. ชนะสงคราม คลี่คลายต่อเมื่อย่ำรุ่งวันใหม่ (ฟ้าเก่า)

เวลาประมาณ ๖ โมงกว่าๆ วันเสาร์ที่ ๒๓ พฤษภาคม นักศึกษาที่ถูกคุมขังใน สน.ปทุมวันราว ๓๔ คน ได้รับการปล่อยตัวโดยไม่มีการตั้งข้อหา เพียงแต่ทุกคนต้องเขียนบันทึกว่าจะไม่เคลื่อนไหวทางการเมืองอีก (โดยไม่ต้องลงชื่อกำกับ) หลังจากที่มีแรงกดดันจากเพื่อนนักศึกษาและประชาชนไปรวมตัวกันหน้า สน.ปทุมวัน จำนวนมาก อีกทั้งมีการรณรงค์ผ่านสื่อโซเชียลโดยสมัชชาปกป้องประชาธิปไตย แถลงการณ์โดยคณะทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และองค์กรสิทธิมนุษยชนเรียกร้องกันอย่างพร้อมเพรียงให้ทางการปล่อยตัวนักศึกษา

มีเหตุคู่ขนานของความอัปลักษณ์และประทับใจเกิดขึ้นไม่น้อยเลยในช่วงไม่ถึง ๒๔ ชั่วโมง

ส่วนหนึ่งของความอัปลักษณ์ :




หากแต่มียิ่งกว่านั้น : 



สุนัย ผาสุก (Sunai @sunaibkk) เจ้าหน้าที่องค์การสิทธิมนุษยชน Human Rights Watch เขียนข้อความไว้บนทวิตเตอร์ว่า "นักศึกษาที่ถูกจับที่หน้าหอศิลป์ กทม.บอก HRW ว่า เจ้าหน้าที่เข้าชาร์จ-ทำร้ายร่างกาย ต่อย,เตะ,เหยียบอก,บีบอวัยวะเพศ,รัดคอ,กระชากผม"




 ทางด้านนักศึกษากลุ่มดาวดินที่ขอนแก่น ได้รับการปล่อยตัวหลังจากที่วางหลักประกันคนละ ๗,๕๐๐ บาท เนื่องจากถูกตั้งข้อหาความผิดฝ่าฝืนประกาศคณะรัฐประหารฉบับที่ ๗ ห้ามชุมนุมทางการเมือง
ก่อนหน้านั้น :

ผู้ถูกคุมขังคนหนึ่งเขียนแถลงการณ์ด้วยลายมือบนฝากล่องโฟมส่งออกมาจากในคุก
ภายนอก บริเวณหน้าสถานีตำรวจมีชาวบ้านนามูลและดูนสาดไปเฝ้ารอให้กำลังใจพวกนักศึกษาที่ถูกคุมขัง รวมทั้งพากันไปหย่อนแผ่นกระดาษความเห็นใส่ตู้ที่ทางการตั้งไว้รับ แต่เมื่อมีคนไปหย่อนความเห็นกันมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจขอนแก่นได้มายกเอาตู้ความเห็นนั้นหลบไปเสีย

เช่นกัน กลุ่มเยาวชนสังคมนิยมประชาธิปไตย หรือ YPD ซึ่งถูกห้ามจัดเสวนาเรื่อง 'สิทธิชุมชน เสรีภาพ และการศึกษา' ภายในห้องประชุมอนุสรณ์สถาน ๑๔ ตุลาฯ แล้วยังดำเนินกิจกรรมกันต่อในบริเวณภายนอกหน้าอนุสรณ์สถาน ถูกตำรวจนำขึ้นรถกระบะไปควบคุมตัวที่ สน.ชนะสงคราม ก็ได้รับการปล่อยตัวในวันต่อมาเช่นกัน
สำหรับความประทับใจในเหตุการณ์อัปลักษณ์ไม่มีใดอื่นนอกไปจาก ความองอาจแกร่งกล้าของนักศึกษาและเยาวชนเหล่านี้ ที่ไม่เพียงแต่มั่นคงในหนทางประชาธิปไตยแล้วยังมั่นใจในสิทธิมนุษยชนแห่งตน อีกทั้งหลังจากได้รับการปล่อยตัวแล้วหลายคนยังคงประกาศปณิธานยืนยันว่า จะไม่ยอมรับรัฐประหารตลอดไป