วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 22, 2558

เปิดกรุสมบัติ “พล.อ.ธีรชัย นาควาณิช” ผบ.ทบ. รวย 70 ล้าน แถมครอบครอง “งาช้าง 1 คู่” ประเมินค่าไม่ได้



ที่มา เวปที่นี่และที่นั่น
November 20, 2015

แม้ก่อนหน้านี้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม อดีตผู้บัญชาการทหารบก (อดีต ผบ.ทบ.) จะยอมรับว่า มีการแอบอ้างและการเรียกเก็บเงินหัวคิวโรงหล่อ ในโครงการก่อสร้าง อุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ แต่ล่าสุด ผลการสอบสวนอย่างเป็นทางการ จากปาก พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2558 คือ ทุกอย่างถูกต้องตามระเบียบ โปร่งใส ไม่พบนายทหารเกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการนี้แต่อย่างใดและไม่จำเป็นต้องส่งเรื่องให้องค์กรอื่น อย่าง สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ตรวจสอบต่อไป และเรื่องนี้ไม่อยู่ในอำนาจการสอบสวนของ ป.ป.ช.

ผลการสอบสวน ของ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. ที่ออกมา แม้จะดูเหมือน “ชัดเจน” ในเป้าหมายที่ “ผบ.ทบ.” ต้องการจะสื่อสาร แต่ก็ต้องยอมรับว่า ได้สร้าง “ความแคลงใจ” ให้กับ “สังคม” ไม่น้อย

โดยเฉพาะสิ่งที่ “ผบ.ทบ.” แสดงออกว่า ไม่ต้องการให้องค์กรอื่นๆเข้ามาร่วมสอบสวน ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช.หรือ สตง. เพราะถูกมองกลับในทันทีว่าเป็นความพยายามที่จะ “ยุติ” และ “จบๆกันไป” แบบที่ไม่แยแสว่า ประชาชนคนไทยจะมีข้อกังขาใดๆ

สำหรับ “พล.อ.ธีรชัย นาควานิช” ผบ.ทบ.นั้น ได้รับ ฉายาจากสื่อมวลชนว่า “บิ๊กหมู” ซึ่งไม่เพียงแต่ดำรงตำแหน่ง “ผบ.ทบ.” เท่านั้น แต่ยังได้รับการแต่งตั้งเป็น “สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)” ในยุครัฐบาลคณะรัฐประหาร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วย

ซึ่ง พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. ได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.เอาไว้เมื่อ เข้ารับตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2557 (ขณะแจ้งยศ พล.ท.) ว่า มีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 70,232,161.01 บาท โดยไม่มีหนี้สินแม้แต่สลึงเดียว แบ่งเป็น ทรัพย์สินในส่วนของ พล.อ.ธีรชัย นาควาณิช มีทั้งสิ้นรวม 49,911,393.95 บาท แบ่งเป็น เงินฝาก 10,903,285.18 บาท เงินลงทุน(ส่วนใหญ่เป็นกองทุนและสหกรณ์ออมทรัพย์) 3,414,440.77 บาท ที่ดิน 6 แปลง 21.2 ล้านบาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง (บ้าน) มูลค่า 7 ล้านบาท รถยนต์ มูลค่า 5,338,000 บาท สิทธิและสัมปทาน1,035,668 บาท และทรัพย์สินอื่น (ราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป) มูลค่า 1,020,000 บาท และครอบครอง งาช้าง 1 คู่ ที่ประเมินค่ามิได้ โดยอ้างว่าเป็นของมรดก โดยไม่มีหนี้สิน

พร้อมระบุว่า มีรายได้ 2,024,000 บาท แบ่งเป็นเงินเดือน 844,000 บาท เงินประจำตำแหน่ง 996,000 บาท เงินเพิ่มพิเศษสำหรับการสู้รบ 84,000 บาท และดอกเบี้ยเงินฝาก 1 แสนบาท ส่วนรายจ่าย 1,922,900 บาท เป็นค่าหักภาษี 60,000 บาท เงินออมทรัพย์ข้าราชการกองทัพบก 39,600 บาท เงินประกันชีวิต 443,000 บาท เงินกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) 280,000 บาท เงินกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) 280,000 บาท ค่าอุปโภคบริโภค-ท่องเที่ยว 600,000 บาท และอุปการะเลี้ยงดูมารดา 120,000 บาทและเงินบริจาค 100,000 บาท

ส่วนทรัพย์สินของ พ.อ.หญิง บุญรักษา นาควานิช คู่สมรส มีทั้งสิ้นรวม 20,320,767.06 บาท ได้แก่ เงินฝาก 8,554,421.77 บาท เงินลงทุน (ส่วนใหญ่เป็นกองทุน-สหกรณ์ออมทรัพย์) มูลค่ารวม 1,645,351.29 บาท ที่ดินมูลค่า 7,000,125 บาท รถยนต์ มูลค่า 1,069,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 711,869 บาท ทรัพย์สินอื่น (ราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป) 1,340,000 บาท โดยไม่มีหนี้สิน ซึ่งมีรายได้ 1,057,600 บาท เป็นเงินเดือน 720,000 บาท เงินประจำตำแหน่ง 237,600 บาท ดอกเบี้ยเงินฝาก 100,000 บาท โดยมีรายจ่าย 988,645 บาท เป็นค่าหักภาษี 18,000 บาท เงินออมทรัพย์ข้าราชการกองทัพบก 38,400 บาท เงินสะสมกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ 21,600 บาท เงินประกันชีวิต 225,645 บาท เงินกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) 100,000 บาท เงินกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) 100,000 บาท ค่าอุปโภคบริโภค-ท่องเที่ยว 350,000 บาท ค่าอุปการะเลี้ยงดูมารดา 120,000 บาท และเงินบริจาค 15,000 บาท