วันอังคาร, ธันวาคม 22, 2558

ทำความรู้จัก พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ "ปณิธาน" ของ "ผู้ลี้ภัย"



ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2558

คอลัมน์ โครงร่างตำนานคน โดย การ์ตอง/มติชนรายวัน 20 ธ.ค.2558

พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ "ปณิธาน" ของ "ผู้ลี้ภัย"

ก่อนหน้านั้น พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮีนจาผู้มีประวัติที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นตำรวจน้ำดี

มีตำนานการทำหน้าที่ที่ควรจะให้นายตำรวจรุ่นหลังยึดถือเป็นแบบอย่าง และพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายห่างไกลจากข้อครหา

ดังนั้นเมื่อวันนี้ "พล.ต.ต.ปวีณ" ต้องตกอยู่ในฐานะผู้ลี้ภัยอยู่ประเทศออสเตรเลีย เนื่องจากเจ้าตัวเชื่อว่าถูกปองร้ายเพราะการทำหน้าที่ปราบปรามการค้ามนุษย์

โดยมีข้อมูลเบื้องหลังว่าการทำหน้าที่ปราบปรามการค้ามนุษย์นี้ไปชนตอเข้าอย่างจัง แถมเมื่อถูกให้หยุดเหยียบคันเร่ง หันมาเหยียบเบรกบ้าง แต่ไม่ยอมฟังยังเดินหน้าไปตามหน้าที่ที่ตัวเชื่อมั่นว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาภาพลักษณ์ของประเทศที่ถูกตั้งข้อรังเกียจจากนานชาติเรื่องเป็นแหล่งรวมของธุรกิจค้ามนุษย์

ไม่ว่าข่าวที่ปล่อยออกมานั้นจริงหรือไม่ก็ตาม แต่เมื่อ พล.ต.ต.ปวีณถูกย้ายไปอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเจ้าตัวนำเสนอประเด็นว่าถูกกลั่นแกล้ง ข่าวลือนั้นก็มีน้ำหนักขึ้นมาในระดับที่ส่งแรงสะเทือนให้เกิดคำถามถึงความจริงใจในการจัดการกับกระบวนการค้ามนุษย์

และคำถามนั้นหากแค่เป็นคำถามในประเทศที่อาจจะกังขาในเรื่องเครือข่ายค้ามนุษย์ได้รับการปกป้องจากผู้มีอำนาจระดับที่ต้องเล่นงานนายตำรวจที่เข้ามาเปิดโปงคงไม่สะเทือนมากกว่า เพราะมีเครื่องไม้เครื่องมือที่จะสร้างให้เกิดความเชื่อว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้นอยู่มากมาย

ทว่าคำถามนี้กลับขจรขยายไปสู่ท่าทีของต่างประเทศที่เข้าตั้งข้อสังเกตจนถึงสร้างเงื่อนไขต่อต้านอาหารทะเลจากประเทศไทย เนื่องเพราะธุรกิจประมงคือแหล่งใช้แรงงานโรฮีนจาที่ได้ชื่อว่าเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์

และเมื่อ "ธุรกิจอาหารทะเล" เป็นสินค้าส่งออกที่ทำรายได้หลักให้กับประเทศอย่างหนึ่ง

ในยามเศรษฐกิจที่จะต้องระมัดระวังเรื่องที่กระทบต่อรายได้ทุกหนทาง จึงเป็นการเพิ่มแรงแห่งผลสะเทือนขึ้นไปอีก

วันนี้ "พล.ต.ต.ปวีณ" ลาออกจากราชการตำรวจ และได้รับอนุมัติแล้วก่อเดินทางไปอยู่ในฐานะ "ผู้ลี้ภัย" ที่ออสเตรเลีย

แต่หากคิดว่าเรื่องราวจะจบเพียงแค่นั้น ย่อมไม่น่าจะถูกนัก เนื่องจาก "พล.ต.ต.ปวีณ" ได้ปวารณาตัวแล้วว่าจะเปิดโปงการค้ามนุษย์ที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศต่อไปเรื่อยๆ

"เมื่อห้องเราถูกปิดไฟมืด ผมไม่อยากได้ยินคำถามว่าทำไมถึงมืด เมื่อมันมองไม่เห็นอะไรเราก็จุดไม้ขีดไฟสิครับ ผมจะจุดไม้ขีดทีละก้านๆ จนกว่าพี่น้องตำรวจและประชาชนจะช่วยกันจุดจนทั่วทั้งประเทศให้เกิดแสงสว่าง ผมจะทำไปเรื่อยๆ ให้ผ่านวัฒนธรรมพิมพ์นิยม หรือวัฒนธรรมบ้าๆ ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจไม่เคยสอน ไม่เคยบรรจุไว้ให้ เช่นตามประจบสอพลอผู้มีอำนาจ เพราะเมื่อใดการแต่งตั้งตำรวจยังเต็มไปด้วยความ

อยุติธรรม เมื่อนั้นประชาชนและสังคมจะหาความสงบสุขไม่ได้"

คือ "ปณิธาน" ที่ "พล.ต.ต.ปวีณ" ปวารณาตัวเองไว้

ดังนั้นนับจากนี้ เรื่องราวในแวดวงสีกากี คงมีออกมาเรื่อยๆ จาก "ผู้ลี้ภัย" ที่ชื่อ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์