วันพุธ, ตุลาคม 18, 2560

ฝกตกหนักเกิดน้ำป่าถล่มเหนือ-อีสาน - นายกฯ ถามน้ำท่วมมาจากไหน ? ย้ำสนใจแผนจัดการน้ำของรัฐบาลบ้าง





ฝกตกหนักเกิดน้ำป่าถล่มเหนือ-อีสาน

by กองบรรณาธิการ ข่าวสังคม
Voice TV21
17 ตุลาคม 2560 

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปสถานการณ์น้ำท่วม เหลือ 9 จังหวัด มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานพายุขนุน อ่อนกำลังลงแล้ว แต่ทั่วทุกภาคยังมีฝนตกต่อเนื่อง ล่าสุดที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เกิดเหตุสลด น้ำป่าพัดรถกระบะหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าภูผาแดง จมน้ำเสียชีวิตในซากรถ



รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ที่มีนายสุดจิต ค้อทอง หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ขับมาทำงานเมื่อเช้านี้ ถูกกระแสน้ำพัดจมหาย ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะระดมกำลังตามหา และพบว่านายสุดจิต เสียชีวิตแล้ว อยู่ในซากรถติดอยู่กับโขดหิน ห่างจุดเกิดเหตุราว 30 เมตร



น้ำป่าจากดอยสุเทพ ไหลลงลำห้วยแม่เหียะใน อย่างรวดเร็ว เข้าท่วมร้านอาหารและบ้านเรือนประชาชนในหมู่บ้านแม่เหียะใน จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับความเสียหาย และยังท่วมรถยนต์ของนักท่องเที่ยวหลายคัน เพราะเคลื่อนย้ายรถหนีไม่ทัน โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม เกิดน้ำป่าบริเวณนี้มาครั้งหนึ่ง โชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตราย



ขณะที่แม่น้ำยม เพิ่มระดับสูงขึ้น เข้าท่วมบ้านเรือนและ สวนฝรั่งของเกษตรกร บ้านรังนก อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร เนื้อที่ 2 ไร่ จมน้ำไปกว่า 300 ต้น ที่เจ้าของสวนกำลังเตรียมเก็บผลผลิตส่งขาย กว่า 1หมื่นลูก คาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาท





ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ท่าเรือข้ามฟาก พื้นที่ตำบลราชสถิตย์ อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง หยุดให้บริการแล้ว โดยประชาชนต้องเดินทางอ้อมไปข้ามแม่น้ำที่สะพานวัดไชโยวรวิหาร ห่างออกไปประมาณ 8 กิโลเมตร แทนเพื่อความปลอดภัย

ส่วนที่วัดสนานเหนือ และท่าเรือปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี แม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มล้นตลิ่ง เข้าท่วมร้านค้าขายของที่ระลึก ทำให้บางร้านต้องหยุดขายชั่วคราว เจ้าหน้าที่ต้องนำกระสอบทรายมาทำคันกั้นน้ำไม่ให้เข้าสู่พื้นที่ด้านใน รวมทั้งทำสะพานไม้ให้ประชาชนใช้เดินลงเรือข้ามฟาก

ทางภาคอีสาน ฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดเลย ทำให้เกิดน้ำป่า ลงสู่ลำน้ำหมัน เอ่อล้นตลิ่ง เข้าท่วมตัวเมืองด่านซ้าย และสถานที่ราชการ ระดับน้ำสูง 30 – 70 เซนติเมตร เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ในรอบปีนี้ ส่วนชาวบ้านต้องเร่งขนทรัพย์สินหนีน้ำขึ้นที่สูง หลังเกิดน้ำท่วมฉับพลัน

ปริมาณน้ำในลำน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังมีการระบายน้ำออกจากเขื่อนอุบลรัตน์ ชาวบ้านเริ่มบรรจุกระสอบทรายนำไปปิดกั้นพื้นที่ลุ่มไม่ให้น้ำท่วมหมู่บ้าน พร้อมอพยพสัตว์เลี้ยง และข้าวของขึ้นไปไว้บนที่สูงแล้ว

เช่นเดียวกับพื้นที่ลุ่มน้ำชี อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ที่รับน้ำมาจากเขื่อนอุบลรัตน์ น้ำได้เอ่อเข้าท่วมถนนระหว่างหมู่บ้าน กว่า 2 กิโลเมตร บางจุดน้ำท่วมสูงกว่า 3 เมตร ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถใช้เส้นทางสัญจรได้ ชาวบ้านต้องเปลี่ยนไปใช้อีกเส้นทางซึ่งต้องอ้อมไปไกลกว่า 50 กิโลเมตร 
 




กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่นและการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา ทำให้เกิดน้ำไหลหลากและน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ใน 9 จังหวัด ได้แก่ ตาก พิจิตร นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี และกาฬสินธุ์ โดยมีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย

ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะยังไม่มีการระบายน้ำเพิ่ม เพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชนที่อาศัยอยู่ริมตลิ่ง ขณะเดียวกันก็ขอให้เข้าใจสถานการณ์ หากไม่ระบายน้ำก็จะล้นคันกั้นน้ำ และจะส่งผลกระทบต่อกรุงเทพมหานครและพื้นที่อื่นๆ

ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศ เรื่อง พายุ “ขนุน”อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ยแล้ว โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย สำหรับพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทย ยังมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

รายงานโดย : โชติพงษ์ วงศ์พนารักษ์

ooo

...